ศิลปะแขนงจิตรกรรม
ศิลปะแขนงประติมากรรม
ศิลปะแขนงสถาปัตยกรรม
ศิลปะแขนงสถาปัตยกรรม
ปัจจุบัน ศิลปินได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะไว้มากมายหลายประเภท ซึ่งเรา สามารถแบ่ง ประเภทของศิลปะ ออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ตามประเภทของความงาม คือ
1. วิจิตรศิลป์ (Fine Art) คือศิลปะที่อำนวยประโยชน์ทางใจที่มุ่งเน้นความงดงาม และความพึงพอใจ มากกว่าประโยชน์ใช้สอย หรือสิ่งที่มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการ ทางด้านจิตใจ และอารมณ์ เป็นสำคัญ แบ่งออกเป็น 6 แขนง คือ
1.1 จิตรกรรม (ภาพเขียน)
1.2 ประติมากรม (ภาพปั้น)
1.3 สถาปัตยกรรม (งานก่อสร้าง)
1.4 วรรณกรรม (บทประพันธ์)
1.5 ดุริยางศิลป์ หรือ ดนตรี (การขับร้อง,การบรรเลง)
1.6 นาฏศิลป์ (การ่ายรำ,การละคร)
2. ประยุกต์ศิลป์ (Applied Art) คือศิลปะที่อำนวยประโยชน์ทางกายมุ่งเน้นประโยชน์ทางการใช้สอยมากกว่าความงาม หรือสิ่งที่มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการ ทางร่างกาย แบ่งออกเป็น 5 แขนง คือ
1.2 ประติมากรม (ภาพปั้น)
1.3 สถาปัตยกรรม (งานก่อสร้าง)
1.4 วรรณกรรม (บทประพันธ์)
1.5 ดุริยางศิลป์ หรือ ดนตรี (การขับร้อง,การบรรเลง)
1.6 นาฏศิลป์ (การ่ายรำ,การละคร)
2. ประยุกต์ศิลป์ (Applied Art) คือศิลปะที่อำนวยประโยชน์ทางกายมุ่งเน้นประโยชน์ทางการใช้สอยมากกว่าความงาม หรือสิ่งที่มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการ ทางร่างกาย แบ่งออกเป็น 5 แขนง คือ

1.1 พาณิชย์ศิลป์ (ศิลปะเพื่อประโยชน์ทางการค้า)
1.2 มัณฑนศิลป์ (ศิลปะการตกแต่ง)
1.3 อุตสาหกรรมศิลป์ (ศิลปะออกแบบผลิตภัณฑ์)
1.4 หัตถศิลป์ (ศิลปะที่ใช้ฝีมือ)
1.5 ประณีตหัตถศิลป์ (ศิลปะการช่างฝีมือชั้นสูง)
จากความหมาย ความงาม และประเภทของศิลปะ เราสามารถสรุปได้ว่าศิลปะ คือสิ่งที่มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อความงามและความพอใจ สิ่งใดที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แม้จะมีความงดงาม ก็หาใช่ศิลปะไม่ ดังเช่น พระอาทิตย์กำลังจมลงทะเล ดอกไม้หลากสีสวยงาม ความงามและความพึงพอใจของศิลปะมี 2 ประเภท คือ ความงามทางกาย และ ความงามทางใจ
ความงามทางกาย เป็นศิลปะที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของเรา เราสัมผัส และเห็นคุณค่าได้อย่าง เป็นรูปธรรม ส่วนความงามทางใจเป็นศิลปะที่มีคุณค่าทางนามธรรม ทำให้เรามีความเป็นมนุษย์ ที่สมบูรณ์ สามารถ ดำเนินวิถีชีวิตได้อย่างมีความสุขเฉกเช่น การปฏิบัติศีลในพระพุทธศาสนา
ดังนั้น ศิลปะจึงมีความผูกพันกับชีวิตความเป็นอยู่ของเราอย่างขาดไม่ได้ เราจะพบศิลปะอยู่ในทุกหน ทุกแห่ง ที่เราผ่านไป คล้ายกับอากาศที่เราหายใจเข้าไปทีเดียว
1.3 อุตสาหกรรมศิลป์ (ศิลปะออกแบบผลิตภัณฑ์)
1.4 หัตถศิลป์ (ศิลปะที่ใช้ฝีมือ)
1.5 ประณีตหัตถศิลป์ (ศิลปะการช่างฝีมือชั้นสูง)
จากความหมาย ความงาม และประเภทของศิลปะ เราสามารถสรุปได้ว่าศิลปะ คือสิ่งที่มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อความงามและความพอใจ สิ่งใดที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แม้จะมีความงดงาม ก็หาใช่ศิลปะไม่ ดังเช่น พระอาทิตย์กำลังจมลงทะเล ดอกไม้หลากสีสวยงาม ความงามและความพึงพอใจของศิลปะมี 2 ประเภท คือ ความงามทางกาย และ ความงามทางใจ
ความงามทางกาย เป็นศิลปะที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของเรา เราสัมผัส และเห็นคุณค่าได้อย่าง เป็นรูปธรรม ส่วนความงามทางใจเป็นศิลปะที่มีคุณค่าทางนามธรรม ทำให้เรามีความเป็นมนุษย์ ที่สมบูรณ์ สามารถ ดำเนินวิถีชีวิตได้อย่างมีความสุขเฉกเช่น การปฏิบัติศีลในพระพุทธศาสนา
ดังนั้น ศิลปะจึงมีความผูกพันกับชีวิตความเป็นอยู่ของเราอย่างขาดไม่ได้ เราจะพบศิลปะอยู่ในทุกหน ทุกแห่ง ที่เราผ่านไป คล้ายกับอากาศที่เราหายใจเข้าไปทีเดียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น