♪♫♭ ยินดีต้อนรับสู่บล็อกศิลปะ/Art... o(≧ω≦)o ~♫ ♪ ♭♪ คุณคิดว่าศิลปะคืออะไร?

วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2555

คุณสมบัติของคนศิลปะ

           
     คนที่มีศิลปะในตัวตนจำเป็นต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
   1. เป็นคนมีศรัทธา มีความเชื่อมั่น และตั้งใจมั่น ในสิ่งที่จะทำ ว่าเป็นสิ่งดีจริง มีประโยชน์จริง และจะต้องทำให้สำเร็จ

   2. เป็นคนไม่ขี้โรค รู้จักระวังดูแลรักษาสุขภาพของตนเอง

   3. เป็นคนถ่อมตน เพราะคนโอ้อวดไม่มีใครอยากสอน ไม่มีใครอยากแนะนำ คนพวกนี้มัวแต่อวด มัวแต่คุย จนไม่มีเวลาฝึกฝีมือตัวเอง

   4. เป็นคนขยัน มีความมานะพากเพียร อดทน

   5. เป็นคนมีปัญญา รู้จักพินิจพิจารณาช่างสังเกต

วิธีฝึกตนให้มีศิลปะ

    
       ศิลปะในตัวตน เปรียบเหมือน "พรสวรรค์" ซึ่งคงไม่สำคัญมากกว่าการมี "พรแสวง" คือการฝึกฝนตนเองให้ มีศิลปะ โดยมีวิธีการ ดังนี้
   1. ฝึกตนเองให้เป็นคนช่างสังเกต รู้จักหาจุดเด่นของสิ่งรอบตัว

   2. ตั้งใจทำงานทุกอย่างที่มาถึงตนให้ดีที่สุด อย่าดูถูกงาน อย่าเกี่ยงงาน

   3. ตั้งใจทำงานทุกอย่างด้วยความประณีต ละเอียดลออ

   4. ตั้งใจปรับปรุงงานให้ดีขึ้นเสมอ

   5. หมั่นใกล้ชิดกับผู้มีศิลปะ

   6. ฝึกสมาธิอยู่เสมอ เพื่อให้ใจสงบผ่องใส เกิดปัญญาที่จะฝึกและปรับปรุงตนเองให้มีคุณสมบัติของผู้มีศิลปะได้

ข้อดีของการมีศิลปะ

 
     ศิลปะนอกจากมีความผูกพันกับชีวิตของเราแล้ว ศิลปะยังมีส่วนผูกพันอย่างแนบแน่นกับหลักธรรม ทาง พระพุทธศาสนา ดังพุทธพจน์ บทหนึ่งที่กว่าไว้ว่า ผู้มีศิลปะแม้เพียงอย่างเดียว ก็สามารถเลี้ยงชีพได้โดยง่าย การมีศิลปะทั้งที่เป็นพรสวรรค์ หรือพรแสวง ตามที่ได้กล่าวมาแล้ว จึงเกิดผลดีกับผู้มี หรือฝึกฝนให้มีศิลปะ ดังนี้
    1. ทำคนให้เป็นคน
    2. ทำคนให้ดีกว่าคน
    3. ทำคนให้เด่นกว่าคน
    4.ทำคนให้เลิศกว่าคน
    5. ทำคนให้ประเสริฐกว่าคน
    6. ทำคนให้สูงกว่าคน
    7. ทำคนให้เลี้ยงตัวได้
    8. ทำคนให้ฉลาด
    9. ทำคนให้มั่งคั่งสมบูรณ์
  10. ทำคนให้ประเสริฐ
  11. ทำคนให้ได้รับความสุขทั้งโลกนี้โลกหน้า
  12. ทำโลกให้เจริญทั้งด้านวัตถุและจิตใจ

ประเภทของศิลปะ

ศิลปะแขนงจิตรกรรม
ศิลปะแขนงประติมากรรม
ศิลปะแขนงสถาปัตยกรรม


    ปัจจุบัน ศิลปินได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะไว้มากมายหลายประเภท ซึ่งเรา สามารถแบ่ง ประเภทของศิลปะ ออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ตามประเภทของความงาม คือ
           
        1. วิจิตรศิลป์ (Fine Art) คือศิลปะที่อำนวยประโยชน์ทางใจที่มุ่งเน้นความงดงาม และความพึงพอใจ มากกว่าประโยชน์ใช้สอย หรือสิ่งที่มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการ ทางด้านจิตใจ และอารมณ์ เป็นสำคัญ แบ่งออกเป็น 6 แขนง คือ


               1.1 จิตรกรรม (ภาพเขียน)    
               1.2
 ประติมากรม (ภาพปั้น)
               1.3
 สถาปัตยกรรม (งานก่อสร้าง)
               1.4
 วรรณกรรม (บทประพันธ์)
               1.5
 ดุริยางศิลป์ หรือ ดนตรี (การขับร้อง,การบรรเลง)
               1.6
 นาฏศิลป์ (การ่ายรำ,การละคร)
         
         2. ประยุกต์ศิลป์ (Applied Art) คือศิลปะที่อำนวยประโยชน์ทางกายมุ่งเน้นประโยชน์ทางการใช้สอยมากกว่าความงาม หรือสิ่งที่มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการ ทางร่างกาย แบ่งออกเป็น 5 แขนง คือ

 


               1.1 พาณิชย์ศิลป์ (ศิลปะเพื่อประโยชน์ทางการค้า)
               1.2 มัณฑนศิลป์ (ศิลปะการตกแต่ง)
               1.3
 อุตสาหกรรมศิลป์ (ศิลปะออกแบบผลิตภัณฑ์)
               1.4
 หัตถศิลป์ (ศิลปะที่ใช้ฝีมือ)
               1.5
 ประณีตหัตถศิลป์ (ศิลปะการช่างฝีมือชั้นสูง)

 
จากความหมาย ความงาม และประเภทของศิลปะ เราสามารถสรุปได้ว่าศิลปะ คือสิ่งที่มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อความงามและความพอใจ สิ่งใดที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แม้จะมีความงดงาม ก็หาใช่ศิลปะไม่ ดังเช่น พระอาทิตย์กำลังจมลงทะเล ดอกไม้หลากสีสวยงาม ความงามและความพึงพอใจของศิลปะมี 2 ประเภท คือ  ความงามทางกา และ ความงามทางใจ

        ความงามทางกาย เป็นศิลปะที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของเรา เราสัมผัส และเห็นคุณค่าได้อย่าง เป็นรูปธรรม ส่วนความงามทางใจเป็นศิลปะที่มีคุณค่าทางนามธรรม ทำให้เรามีความเป็นมนุษย์ ที่สมบูรณ์ สามารถ ดำเนินวิถีชีวิตได้อย่างมีความสุขเฉกเช่น การปฏิบัติศีลในพระพุทธศาสนา
   

     ดังนั้น ศิลปะจึงมีความผูกพันกับชีวิตความเป็นอยู่ของเราอย่างขาดไม่ได้ เราจะพบศิลปะอยู่ในทุกหน ทุกแห่ง ที่เราผ่านไป คล้ายกับอากาศที่เราหายใจเข้าไปทีเดียว